ส่วนขนาดความจำมีให้เลือกระหว่าง 32 หรือ 64 กิกะไบต์ การออกแบบที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ทันสมัยน่าสัมผัส ช่วยขับให้ "เซอร์เฟส" ดูเด่นและน่าใช้งาน และมีแป้นพิมพ์สามารถพับเปิด-ปิดได้ รวมถึงแท่นสำหรับตั้งหน้าจอ ที่สามารถดึงเข้า-ออกได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แม้ทางไมโครซอฟท์ จะยังไม่กำหนดราคา และวันวางจำหน่ายแท็บเล็ตรุ่นแรกของบริษัทอย่างเป็นทางการ แต่ผู้สันทัดกรณีต่างคาดการณ์ว่า เซอร์เฟส น่าจะออกสู่ตลาดพร้อมกับ วินโดวส์ 8 ช่วงปลายปีนี้
มาดูด้านหน้าที่เป็นกระจกบาง ผสานเข้ากับวัสดุโครงสร้างแมกนีเซียม มีเพียงโลโก้ของวินโดว์เท่านั้นที่มองเห็น จะไม่มีตัวอักษร Microsoft แสดงขึ้นมา ลองเปิดขึ้นมาด้วยหน้าจอ 10.6 นิ้ว กินพื้นที่ด้านหน้าทั้งหมด และที่มุมทั้ง 4 ด้านจะมีปุ่มครึ่งนิ้ว ที่เราสามารถจับยึดได้อย่างสะดวก โดยโลโก้ที่แสดงจะทำหน้าที่เป็นปุ่มสัมผัสคล้ายๆ ปุ่ม Home หรือหน้าแรกการใช้งานของเครื่อง นอกจากนั้นปุ่มที่มุมของเครื่องก็สามารถใช้งานแบบทัชสกรีนได้ ช่วยนำเข้าเมนูหรือแอพพลิเคชั่นการทำงาน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรา
แท็บเล็ต "Surface " มีน้ำหนักเบาและสะดวกในการจับถือ มุมโค้งมนง่ายต่อการจับถือ แม้ว่าขอบฝาปิดตัวเชื่อมต่อจะดูไม่ค่อยลงตัวมากนัก จนกว่าเราจะต่อฝาปิดเข้าด้วยกัน ทั้งนี้วัสดุที่จัดทำโครงของ แท็บเล็ต "Surface " มีสารเคลือบกันชื้น มองดูทนทานและมีราคาแพง มองดูเผินๆ คล้ายๆ กับการเคลือบบางๆ เท่านั้น ไม่ดูเหมือนการระบายสีลงแต่อย่างไร การใช้งานถ้าเราไม่ต้องการถือ ก็จะมีขาตั้งในตัว ด้านหลังที่สามารถวางได้ ซึ่งขาตั้งเหล่านี้พับเก็บได้ ยึดด้วยระบบแม่เหล็ก ป้องกันการหล่นออกมา ถ้าหากใครเคยเห็นฝาปิดของ Apple's SmartCover บนเครื่อง iPad 3, ก็จะเห็นว่าการต่อแบบนี้ไม่ใช่สิ่งน่าแปลกใจแต่อย่างไร แต่เป็นการออกแบบในลักษณะที่ออกมาเพื่อแข่งขันทางการตลาดโดยตรงกับคู่แข่งนั้นเอง ทั้งนี้ แท็บเล็ต "Surface " ออกแบบสัมพันธ์กันกับขาตั้งด้านหลังหรือ hinge, ซึ่งจะมียาง1ฟุตรองรับความแน่นหนา
ด้วยแป้นพิมพ์แบบ Touch Cover ,เราสามารถใช้งานแป้นพิมพ์ในการพิมพ์งานสะดวกและคล่องตัวกว่าของค่ายอื่นๆ เรียกว่าพอใจกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แต่ทำให้การพิมพ์งานของเราง่ายขึ้นกว่าเดิม แท็บเล็ต "Surface " มาพร้อมพอร์ตการใช้งานที่จำเป็น ด้านล่างจะมีแถบแม่เหล็กสำหรับการต่อแป้นพิมพ์หรือ keyboard เข้าด้วยกัน ด้านบนมีปุ่ม Power เปิดทำงาน ด้านข้างมีลำโพงสองตัว และไมค์คู่ ,หน่วยความจำ microSD, one USB 2.0 port (USB 3.0 สำหรับ Surface Pro) และ Micro HDMI
ด้วยวัสดุและโครงร่างที่สอดรับกันอย่่างลงตัวช่วยทำให้ แท็บเล็ต "Surface " ดูมั่นคงแข็งแรง ลองจับมุมยกและบิดดูพบว่าไม่พบการแตกหัก Touch Cover และ Type Cover The Touch Cover คือแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดชนิดบางเฉียบที่เหมาะสมยิ่งในการพกพาหรือเคลื่อนที่ในการทำงาน ;ขณะที่เจ้า Type Cover ก็เป็นแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดที่หนาขึ้นมานิดหน่อย สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการแป้นพิมพ์ที่คล้ายของปกติมากที่สุด
แป้นทั้งสองมีที่ต่ออันเดียวกัน ยึดด้วยระบบสนามแม่เหล็ก และมีตัวยึดหรือ latches ในตัวเครื่องด้วย เพื่อความมั่นคงแน่นหนา การเชื่อมต่อสามารถทำได้อย่างง่ายไม่ติดขัด และการพับเก็บเข้าที่เพื่อง่ายในการจับถือและพกพาก็ถือว่าลงตัว โดยถ้าเราพับแป้นไปด้านหน้าจอแสดงผลก็จะปิดการทำงานอัตโนมัติ สำหรับเจ้าแป้น Touch Cover ดูๆ ไปก็จะคล้ายภาพบางๆ ของแป้นพิมพ์มากกว่าที่จะเป็นแป้นพิมพ์จริงๆ นะเนี่ย แต่รองรับการทำงานได้ดีทีเดียวละ แม้จะบางๆ แต่ก็ทำงานได้อย่างถูกต้อง ออกแบบมาพอดีกับการพิมพ์ แม้ว่าแป้นสัมผัสเลื่อนเคอร์เซอร์จะเล็กไปนิด เราจะใช้งาน touchpad เมื่อเราต้องการความเที่ยงตรงในการวางตำแหน่งของเม้าส์เคอร์เซอร์ในจุดตามที่เราต้องการ
แป้นพิมพ์ Touch Cover มีให้เลือก 5 สีด้วยกัน ตามความชอบ ได้แก่ : ขาว, ดำ, แดง , ไคอัน และ มาเจนต้า การพิมพ์ด้วยแป้นพิมพ์ Touch Cover จะดูแปลกๆ ไปบ้าง เพราะแป้นจะไม่มีการยุบตัวตามแรงกดของเรา ด้วยผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่มจะทำให้สะดวกมากกว่าและรื่นน้อยกว่า การพิมพ์บนหน้าจอ สำหรับแป้นพิมพ์ก็จะมีคีย์กดเช่นเดียวกับแป้นพิมพ์ปกติทั่วไป แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ ปุ่ม Search, Share, Devices and Settings buttons เพื่อความสะดวกในการใช้งานของเราจากแป้นกดได้ทันที นอกจากนั้น แป้น Type Cover ยังสามารถใช้งานแป้นฟังชั่น F ต่างๆ เช่น กดแป้น F7 ในโปรแกรม Word เพื่อตรวจคำสะกด หรือแป้น Shift F3 เพื่อเปลี่ยนขนาดอักษร
ด้านหลังของ keyboard covers (และด้านหน้าของ Touch Cover) เป็นวัสดุเหนียวจากไมโครไฟเบอร์ ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ Microsoft; นุ่มในการสัมผัส , และสะดวกในการใช้งาน และการจับถือ Interface ด้วยแป้นพิมพ์ที่บาง และการออกแบบที่โดดเด่น ทำให้ แท็บเล็ต "Surface " เป็นที่น่าสนใจ และน่าใช้งาน แม้ว่าจะพึ่งเป็นก้าวแรกของไมโคร์ซอร์ฟในการผลิต แท็บเล็ต "Surface " ออกมาสู่โลกดิจิตอล ใบนี้
แท็บเล็ต "Surface " Pro ใช้หน่วยประมวลผลของอินเทล Core i5 Ivy Bridge tablet; ถือว่าเร็วมากพอในการใช้งานโปรแกรมหนักๆ อย่างเช่น Adobe Lightroom และการตอบสนองคำสั่งการทำงานทุกมิติได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่า Surface RT เป็นระบบ ARM tablet, ใช้ระบบโอเอสของ Windows RT และถือเป็น แท็บเล็ต "Surface " ตัวแรกของค่าย ข่าวดีคือว่า Windows RT คล้ายๆกับ Windows 8 – และสามารถทำงานได้เป็นอย่างดีกับหน้าจอแบบสัมผัส touchscreen.
สำหรับ icons ของหน้าจอทำงานจะคล้ายๆ กับโปรแกรมข่าวที่สามารถเลื่อนขึ้นลงอย่างสะดวก และไม่มีติดขัด การย่อขยายหน้าจอแสดงผล สามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม เราสามารถเข้าถึงแหล่งหนังดังๆ เพื่อพรีวิวตัวอย่างและแท็บเปิดดูแบบเต็มหน้าจอได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว การสลับใช้งานระหว่างแอพพิเคชั่น ทำได้แบบง่ายๆ ข้างๆ กัน เราสามารถอ่านอีเมล และสนุนกับการดูภาพ หรือเว็บไซต์ ในอัตราส่วน แบบ 4:3 aspect ratio และสามารถแดรก วางในในจุดตำแหน่งบนหน้าจอตามที่เราต้องการได้เสรี การสัมผัสจากขอบจอเพื่อเข้าถึงแอพต่างๆ ก็ทำได้ดีไม่มีที่ติเช่นกัน จากล่างขึ้นไปหรือจากด้านข้างเข้ามาก็สามารถเข้าถึงแอพต่างๆ ได้อย่างสะดวกครับ
แท็บเล็ต "Surface " RT จะรันแอพของเมโทร, ดังนั้นอะไรก็ตามในวินโดว์ Store ณ จุดปัจจุบัน รวมทั้งหน้าจอ Windows desktop – แต่เฉพาะ desktop IE และโปรแกรม สำนักงานเท่านั้น การทำงานกับหน้าจอ desktop, การสัมผัสดีมากสำหรับการแดรกวินโดว์ไปรอบๆ เลื่อนขึ้นลง ระหว่างเอกสารหรือเว็บเพจ แต่ถ้าทำงานกับโปรแกรม คำนวน Excel หรือ โปรแกรมออพฟิต Office 2013 RT สำหรับ Home และ Student ที่มาพร้อม โปรแกรม การหมุน แท็บเล็ต "Surface " หน้าจอก็จะปรับตามให้เราออโต้ และราบรื่นพอสมควร แม้ว่าจะไม่เร็วสุดๆ ก็ตามแต่การตอบสนองขนาดนี้ก็จัดว่าดีแล้วครับ โดยจะไม่มีการเคลือนที่ของไอคอนระหว่างการหมุน เราจะได้หน้าจอเช่นเดิมหรือแอพเช่นเดิม เฉพาะในการดูแบบแนวตั้งเท่านั้น แนวนอนไม่ได้ ทำให้ทำงานได้ดีกับ Start screen,เพราะว่าไอคอนก็จะเรียงตัวเอง เป็นกลุ่มๆ และเอกสาร และเว็บเพจ ก็สามารถทำงานได้ดีเพราะว่าเราสามารถเห็นหน้าจอแบบเต็มๆ ทันที ถ้าเราคุ้นเคยกับ Windows 8, จะพบว่า Surface RT จะดีมากๆ , รวดเร็วกว่า Windows 8 PC และพึ่งเกิดขึ้นเพราะว่าซีพียู ARM processor.
สำหรับ แท็บเล็ต "Surface " Pro มีอะไรพิเศษด้วยหน่วยประมวลผลของอินเทล และความสามารถในการรับโอเอสและโปรแกรมวินโดว์ใดๆ ซีพียู Ivy Bridge Core i5 ยังต้องการทำให้ร้อนน้อยลงกว่านี้บ้าง , เพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะ 4mm หนากว่าและ 227g หนักกว่า และความละเอียดหน้าจอ ClearType Full HD.
สรุปว่า
ต้องยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจที่ทางไมโครซอร์ฟออ แท็บเล็ต "Surface " และทำได้ดีมากๆ เสียด้วย เมื่อเทียบกับแอนดอยน์ ซึ่งทางไมโครซอร์ฟจะต้องกำหนดราคาที่เหมาะสมต่อไป เพื่อให้สู้กับ iPad และ 10-inch แอนดอย แท็บเล็ต
ด้วยการออกแบบและหน้าตาที่ดีเยี่ยมทำให้เชื่อว่า แท็บเล็ต "Surface " จะสามารถแบ่งยอดการตลาดกับทาง iPAD และ แอนดอย ได้แน่นอน ขั้นตอนต่อไปคือการตลาด โดยเฉพาะเรื่องของราคาในการแข่งขันที่จะต้องสู้กันได้
ليست هناك تعليقات:
إرسال تعليق