โดยทางผู้พัฒนา Microsoft พัฒนา Windows 8 ให้สามารถติดตั้ง setup ได้ 2 แบบด้วยกัน
1 สำหรับผู้ที่ต้องการอัพเกรดจากเวอร์ชั่นก่อน และ
2 สำหรับผู้ที่ต้องการฟอร์แมต Harddisk ลงใหม่ หรือ clean install จากนั้นเข้าไปโหมดตัวเลือกขั้นสูงในการจัดการดิกส์ และแบ่งพาร์ทิชั่น
ซึ่งมีการพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพใน Windows 8.
นอกเหนือจากการเสนอระบบ new OSในรูปแบบของกล่อง DVD, ทาง Microsoft ยังจะมาพร้อมกับรุ่นที่สามารถดาวโหลดและติดตั้งได้จากเว็บโดยตรง แบบ ติดตั้ง online ตั้งแต่เริ่มจนจบการติดตั้ง
โดยเรียกกันว่า Web setup ซึ่งจะรวมถึงการผสานหมายเลขผลิตภัณฑ์ หรือ product key, โดยที่เราไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลเหล่านั้น สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการการควบคุมขั้นสูงสามารถติดตั้งแบบ advanced setupจากแผ่น DVD หรือ USB key.
ทาง Microsoft ยังรวมเครื่องมืออีกหลายตัวเพื่อให้การติดตั้งหรืออัพเกรด windows 8 สามารถทำได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา สำหรับผู้ใช้งาน Windows 7 จะมีคำแนะนำสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการอัพเกรด ว่ามีโปรแกรมหรือแอพลิเคชั่นตัวไหนที่สามารถรองรับและใช้งานได้กับวินโดว์ 8 โดยทางวินดดว์จะมีการบันทึกไฟล์ข้อมูลและการตั้งค่าที่สามารถคืนค่าและเรียกใช้งานได้อย่างทันที
ดังนั้นผู้ใช้งานจึงสามารถที่จะ upgrades ไปเป็น Windows 8 จะมีกระบวนการขั้นตอนที่ง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน และมีการคลิกเพียง 11 clicks, เท่านั้น หากเปรียบเทียบกับของเก่าๆ เช่น 7 จะมีหน้าต่างขึ้นมาไม่น้อยกว่า 60 screens ที่จะต้องผ่านในการติดตั้งเพื่อใช้งาน Windows 7.
ดังนั้นความเร็วในการติดตั้งและการอัพเกรดของ Windows 8 ผู้ใช้งานจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน สำหรับ Windows 7, การติดตั้งและคัดลอกไฟล์จำเป็นในการติดตั้งจะมีการคัดลอกแบบ 1 บาย 1 และมีการย้ายออกไปที่ละ 1 เมื่อการติดตั้งเสร็จแล้ว แต่สำหรับวินโดว์ 8 จะมีการคัดลอกที่ละแฟ้มหรือ folders ทำให้มีความเร็วในการติดตั้งที่มากกว่า นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกการติดตั้งสำหรับผู้ที่ชำนาญหรือขั้นสูงในการใช้งานเช่นเจ้าหน้าที่ IT หรือช่างคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
บทสรุป การติดตั้ง Windows 8 ผู้ใช้งานจะสามารถพบการติดตั้งที่เร็วขึ้น ง่ายขึ้น แต่ยังคงความสามารถในการปรับแต่งสำหรับผู้ใช้งานขั้นสูงไว้อย่างครบครัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น