เปิดโปรแกรมท่องเน็ต web browser.
ไปที่เว็บไซต์ของ Audacity home page http://audacity.sourceforge.net/.
บนหน้าโฮมเพจของ Audacity home page, ให้ click ที่ลิงค์ ย่อหน้าที่สอง ของเวอร์ชั่นล่าสุด "latest release of Audacity" ซึ่งปัจจุบันเป็นรุ่นเบต้า โดย Audacity จะสามารถทำงานกับ Windows, Mac และ Linux.
Oบนหน้าเพจที่เราอยู่ ให้ click ลิงค์ 1.3 Beta box สำหรับ Windows, Mac หรือ Linux ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการของเราที่ใช้งานอยู่ปัจจุบันครับ
จากนั้นจะพาเราเข้าสู่หน้าดาวโหลด สำหรับ Windows หรือ Mac, เลือก "Recommended Download" ซึ่งจะมาพร้อมตัวติดตั้งของโปรแกรม (.exe สำหรับ Windows, .dmg สำหรับ Mac). คลิกเม้าส์ว้ายบนลิงค์นี้
จะแสดงกรอบหน้าต่างการดาวโหลด download window. ให้เรา Click คำสั่ง "Save file" และบันทึกไว้บนคอมพิวเตอร์ของเรา ในแฟ้มหรือโฟลเดอร์ที่เราต้องการ .
จากนั้นบนเครื่อง Windows, ให้เรา double-click ไฟล์ที่เราดาวโหลดมาแล้ว .exe file - ถ้ามีกรอบแจ้งเตือนขึ้นมา ให้เราคลิก "Run". เลือก "English" เป็นภาษาในการติดตั้งและใช้งาน ,และทำตามคำแนะนำการติดตั้ง ให้ใช้แฟ้มปลายทางการติดตั้งตามที่โปรแกรมแนะนำ และสร้าง desktop icon เพื่อการเข้าถึงและเรียกใช้งานที่สะดวกรวดเร็วต่อไป หลังการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เราคลิกปุ่ม "Finish" (Audacity จะเปิดโปรแกรมการทำงานขึ้นมา เว้นว่าเราไม่เลือก uncheck ปุ่มคำสั่ง "Launch Audacity" box).
สำหรับ Mac, ให้ double-click ไฟล์ที่เราโหลด .dmg เพื่อเชื่อมโยง จากนั้นจะเป็นการติดตั้ง Audacity, โดยการ copy แฟ้ม "Audacity" จากแฟ้มที่เราเชื่อมโยงไว้ .dmg to /Applications หรือจุดอื่นๆ ที่เราเลือก
โปรแกรม Audacity จะบันทึกค่าใช้งานสำหรับผู้ใช้งานปัจจุบัน ซึ่งจะไม่เป็นแบบเดียวกันกับผู้ใช้งานอื่นๆ ที่ดาวโหลดและติดตั้งโปรแกรม
ภาพแสดงหน้าตา Interface การใช้งานของโปรแกรมบันทึกเสียง Audacity
การแก้ไข Audacity
การบันทึกเสียงแบบ Narration
การเริ่มบันทึกเสียงแบบสั้นๆ หรือ short clip, เปิดโปรแกรมขึ้นมาโดยการคลิกที่ icon บนหน้า desktop shortcut.
เมื่อเปิดโปรแกรม Audacity ขึ้นมาแล้ว ต้องแน่ใจว่าเราได้ต่อสาย microphone เข้ากับพอร์ตของการ์ดเสียงบนคอมพิวเตอร์เรียบร้อย
กดปุ่มสีแดง เพื่อบันทึก, เราควรจะเห็นแทรกการบันทึกเสียงกำลังทำงาน .
กดปุ่ม Stop สีเหลืองเพื่อหยุดการบันทึก
การบันทึกไฟล์เสียงที่เราบันทึก เพื่อเรียกใช้งานหรือแก้ไขเพิ่มเติมภายหลัง คลิกที่เมนู File > Save Project, ระบุแฟ้มปลายทางที่ต้องการจัดเก็บ และใส่ชื่อไฟล์ที่เราต้องการ และบันทึกหรือ save .
การส่งออกไฟล์เสียงหรือ export ไฟล์เสียงไปยังโปรแกรมด้านเสียงอื่นๆ บนคอมพิวเตอร์ของเรา สามารถทำได้โดยการคลิกที่เมนู File > Export, และในช่องของชื่อไฟล์, พิมพ์ชื่อไฟล์ที่เราบันทึกไว้ , เช่นตามตัวอย่างเราบันทึกไฟล์เป็น "narration". จากนั้นเลือกรูปแบบไฟล์ที่ต้องการเช่น . WAV ซึ่งจะสามารถรองรับและใช้งานได้กับโปรแกรม Windows ทั่วไปได้ จากนั้นคลิก Save. ถ้ามีกรอบถามขึ้นมาเกี่ยวกับ metadata, ให้เราคลิก "OK".
การนำเข้าไฟล์เสียงหรือ Importing Narration
การนำเข้าไฟล์เสียง คลิก File > Import > Audio และเลือกไฟล์เสียงที่เราต้องการนำเข้า .
ในตัวอย่างเราจะนำเข้าไฟล์ที่เราบันทึกไว้
เมื่อกล่องเตือนแสดงขึ้นมาให้เราคลิก OK
การนำเข้าไฟล์อื่นๆ ให้เราทำตามขั้นตอนการนำเข้าด้านบน และเราควรจะเห็นรายการของไฟล์ที่นำเข้ามาแสดงเป็นรายการตามลำดับเรียงกันไป
การคัดลอกและวาง Copy and Paste
การคัดลอกบางส่วน ให้ใช้เครื่องมือ หรือ tool (ทางลัดคือ F1). ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านบนตรงกลางของเมนูเครื่องมือหลัก และมีลัษณะคล้ายๆ กับตัว I-beam.
ถ้าเราเลือกบางส่วนของไฟล์เสียง ตรงบริเวณที่ถูกเลือกจะแสดงด้วยแถบการเลือกหรือแถบ highlighted.
จากนั้นให้เราเลือกคำสั่ง copy จากเมนู Edit menu หรือใช้แป้น CTRL + C.
จากนั้นให้เราใช้เครื่องมือ selection tool ไปยังจุดที่เราต้องการวางเสียง .
การวาง paste, ให้คลิกที่จุดที่ต้องการ และเลือก paste จากเมนู Edit menu หรือกด CTRL + V.
การย้าย Time-shift
การขยับไฟล์เสียงไปมาระหว่างจุดที่เราต้องการ เลือกคำสั่ง time-shift tool (F5) จากเมนูบาร์ , ซึ่งจะคล้ายๆ ลูกศรคู่ ชี้ออกมา
จากนั้นให้เราคลิกส่วนของไฟล์ที่ต้องการย้าย และใช้เม้าส์แดรก ย้ายไป ไปทางซ้าย หรือ ขวา บนแถบการทำงานที่เราต้องการ
ในตัวอย่างนี้ เราจะปล่อยให้ไฟล์เสียงมีการทับเหลือมกันเล็กน้อย overlap ของสองจุดของดนตรีพื้นหลัง background music.
การกำหนด Fade-In
การกำหนด fade-in, เลือกส่วนของไฟล์ ที่ต้องการ ทำ fade in โดยใช้เครื่องมือ selection tool.
จากนั้นไปที่ Effect > Fade In.
จะเป็นการกำหนดเสียงให้ค่อยๆ ดังขึ้น จนถึงระดับปกติของไฟล์เสียง
การกำหนด Fade-Out
การทำ fade-out, เลือกส่วนของไฟล์ ที่ต้องการ ทำ fade out โดยใช้เครื่องมือ selection tool.
ไปที่ Effect > Fade Out.
จะเป็นการกำหนดเสียงให้ค่อยๆ ลดลง จนไม่มีเสียง
การลบไฟล์ Deleting Clips
การลบจุดที่ไม่ต้องการ ใช้เครื่องมือ selection tool.
ไปที่ Edit > Delete หรือกดแป้น delete key บน keyboard.
การลบแบบนี้ จะเป็นการ remove ไฟล์ออกไป , โดยไม่มีการวางเก็บไว้ที่ clipboard ของโปรแกรม ถ้าเราต้องการย้ายไปยังจุดอื่นๆ เราจะต้องใช้คำสั่ง Edit > Cut ซึ่งจะเป็นการตัดเก็บไว้ที่ clipboard ให้เรานำไปวางไว้บริเวณอื่นๆ ได้ตามต้องการ
The best free audio editor
สนใจฟรีแวร์ บันทึกและตัดต่อเสียงบนคอมพิวเตอร์ Download Audacity
ดีที่สุดสำหรับฟรีแวร์ด้านการบันทึกเสียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น